แบตเตอรี่รถยนต์ยี่ห้ออะไรที่ทนทาน และสามารถใช้งานได้นานๆ
จากประสพการณ์ที่เคยเห็นลูกค้าใช้มานะครับ GS แบตเตอรี่ และ 3K แบตเตอรี่ มีคนนิยมใช้มากและทนทาน อายุการใช้อยู่ประมาณ 2 ถึง 3 ปีครับ แต่ลูกค้าบางกลุ่มก็ใช้ Boliden แบตเตอรี่, Panasonic แบตเตอรี่, Bosch แบตเตอรี่,PUMA แบตเตอรี่, FB แบตเตอรี่ และ Yuasa แบตเตอรี่ ได้เกือบๆ 2 ถึง 3 ปี กันเลย สรุปแล้วแบตเตอรี่รถยนต์ทุกยี่ห้อมีความทนทานเท่ากันหมด แต่ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆดังต่อไปนี้
1.ระบบไฟของรถยนต์ที่สมบูรณ์ ไม่มีไฟรั่ว ไฟค้าง
2.ระบบไดชาร์จที่สมบูรณ์ซึ่งสามารถชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่รถยนต์ได้ค่าแรงดันระหว่าง 13.9 ถึง 14.5 โวลต์
3.ถ้าเป็นแบตเตอรี่รถยนต์ชนิดเติมน้ำกลั่น ก็ต้องห้ามลืมเติมน้ำกลั่นเด็ดขาด
4.ไม่เคยลืมเปิดไฟทิ้งไว้จอดแบตเตอรี่รถยนต์ไฟหมดเกลี้ยง
ภาพตัวอย่างลูกค้าที่ใช้ 3K Advance และ GS Super Dimond D-Teach ได้ถึง 3 ปี
แต่ถ้าท่านอยากให้แบตเตอรี่ที่ท่านใช้อยู่ หรือซื้อไปมีความทนทาน ท่านจะต้องตรวจสอบและแก้ไข ตัวแปรต่างๆที่อาจจะทำให้แบตเตอรี่รถยนต์ของท่านมีอายุการใช้งานที่สั้นกว่ามาตราฐานครับดังนี้
1. ดูว่าแบตเตอรี่รถยนต์แต่ละยี่ห้อมีค่าต่างๆ ได้มาตราฐานหรือไม่ (ค่าโวลต์ ค่าแอมป์ ค่าความถ่วงจำเพาะของน้ำกรด และค่า CCA (Cool Cranking Ampere) หลังจากทำการชาร์จแบบช้า (Slow charging) เป็นเวลา 3 ถึง 7 ชม สำหรับแบตน้ำ แต่ส่วนสำหรับแบตเตอรี่กึ่งแห้ง หรือ MF (Maintenance Free) และแห้ง (SMF) เราสามารถวัดได้เลยครับ ถ้าแบตเตอรี่ยี่ห้อไหนมีค่าต่างฯสูงกว่ามาตราฐาน ถือว่ายี่ห้อนั้นดีนะครับ ตัวอย่างการวัดค่าต่างๆมีดังต่อไปนี้ครับ (การวัดค่าต่างๆต้องอาศัยเครื่องมือพิเศษสำหรับแบตเตอรี่โดยตรง เช่น Midtronic MDX-P300)\
ค่าโวลต์ (Volt) แบตเตอรี่รถยนต์จะต้องมีค่าโวลต์ประมาณ 12.6 โวลต์ หลังจากชาร์จเสร็จเรีบยร้อยแล้วสำหรับแบตเตอรี่รถยนต์ชนิดน้ำ แต่สำหรับแบตเตอรี่รถยนต์กึ่งแห้งหรือแห้ง เราสามารถวัดค่าด้วยเครื่องได้เลย
ค่าความถ่วงจำเพาะของน้ำกรด (Specific Gravity) น้ำกรดที่ใช้ในแบตเตอรี่ควรจะต้องมีค่าความถ่วงจำเพาะอยู่ระหว่าง 1.240 ถึง 1.260 ถึงจะทำให้ประจุไฟในแบตเตอรี่รถยนต์มีประสิทธิภาพสูงสุด
ค่า CCA (Cool Cranking Ampere) ค่าที่ได้จากการวัดจะต้องไม่ต่ำกว่าค่ามาตาฐานดังต่อไปนี้ ตัวอย่างเช่น NS40Z = 300, NS60 = 325, N50Z = 350 และ N70Z = 450
2.ดูว่ารถยนต์ของท่านมีไฟรั่วหรือไม่ ไฟรั่วหมายถึงกระแสไฟฟ้าประจุบวกวิ่งอยู่ในกระแสไฟฟ้าประจุลบในตัวถังรถยนต์หรือขั้วลบของแบตเตอรี่รถยนต์ จากเครื่องวัดถ้าไฟรั่วมากกว่า 0.1 แสดงว่ามีไฟรั่วมากเกินกำหนดมาตราฐานและจะทำให้แบตเตอรี่รถยนต์อายุสั้นลง (จากรูปรถคันนี้มีไฟรั่วอย่างรุนแรงมีค่าเท่ากับ 0.55)
3.ดูว่าแบตเตอรี่ที่ท่านจะซื้อเป็นของใหม่และสดจากโรงงานจริงๆ ซึ่งโดยปกติแล้วแบตเตอรี่ไม่ควรค้างสต็อกเกิน 6 เดือนหลังจากวันผลิตนะครับ ตัวอย่าง GS แบตเตอรี่จะดูได้จาก สติกเกอร์ที่ปิดอยู่บนฝาแบตเตอรี่ว่าเป็นของปีนี้หรือไม่
4.ดูว่าร้านค้าที่ท่านซื้อจะต้องทำการชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ให้ท่านโดยวิธีชาร์จแบบช้า (Slow Charging) ซึ่งจะต้องใช้เวลาชาร์จไม่ต่ำกว่า 3 ถึง 7 ชม แล้วแต่ขนาดของแบตเตอรี่รถยนต์
5.คอยดูน้ำกลั่นว่าอยู่ในระดับระหว่าง Lower and Upper Level ตลอดเวลาทุกเดือนสำหรับแบตเตอรี่รถยนต์ชนิดน้ำและทุกปีสำหรับแบตเตอรี่แห้ง MF แบบเห็นรูเติม